อสูรร้าย พ่ายรัก
เมื่อเธอทำให้คนที่เค้ารักต้องตาย ดังนั้นเธอจะต้องชดใช้ให้กับเค้าเช่นกัน!
ผู้เข้าชมรวม
565
ผู้เข้าชมเดือนนี้
37
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อุบัติเหตุ
บริษัทเบอร์ดิสัน
กระจกบานใหญ่สะท้อนให้เห็นเงาของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังพลอดรักกันอย่างลึกซึ้ง จนลืมไปเลยว่าห้องที่ทั้งสองอยู่นั้น คือห้องทำงาน!
“อืม...พอก่อนโคลด์ หยุดๆ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างเบาแรง
เมเบลเองก็ต้องคอยควบคุมตัวเองด้วยเช่นกัน เธอไม่ต้องการให้เกิดเรื่องที่ตนเองไม่ต้องการ ทั้งที่ตัวเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน
มือเล็กดันอกแกร่งให้ออกห่างแล้วสบตากับดวงตาคมที่ตอนนี้เค้าเองก็จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้วเช่นกันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก
“เมเบล...ผมต้องการคุณ” น้ำเสียงกระเส่านี้ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับอมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“รออีกหน่อยนะคะ ถือซะว่าให้เกียรติเมเบลนะ ได้ไหมคะ”
มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับที่ใบหน้าคม ปลายนิ้วไล่ไปมาตามรูปหน้าและจบลงที่ริมฝีปากของเค้าที่ตอนนี้เต็มไปด้วยลิปสติกของเธอ
“ใจร้าย...”
“คุณต้องห้ามใจนะคะ เราต้องเก็บความทรงจำดีๆ นี้ไว้ในวันสำคัญของเรา ทุกอย่างถึงจะมีความหมาย” ใบหน้าหวานส่งรอยยิ้มอ่อนเป็นเชิงขอร้องคนตรงหน้า
“ก็ได้ ผมจะอดทนรอเพื่อคุณ”
“เพื่อเราค่ะ คุณและฉัน เราสองคน”
หญิงสาวก้มหน้าเข้ามาจูบที่ใบหน้าของชายหนุ่มเพียงเล็กน้อยเพื่อเป็นการปลอบใจที่เค้าต้องอดทน
เธอเข้าใจว่าคนตรงหน้าต้องการเธอมาแค่ไหนเพราะตัวเธอเองก็ต้องการเค้ามากเช่นกัน
ชายหนุ่มเองก็กอดเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ตัวเองเช่นกัน เค้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เค้าอยากจะแต่งงานกับใครสักคน ใช้ชีวิตคู่กับเธอทั้งที่ตั้งแต่เล็กจนโตเค้าเติบโตมาจากความเย็นชาของครอบครัวจนกระทั้งเหลือเพียงเค้าคนเดียว ทั้งที่คิดไว้ว่าจะไม่มีทางดึงใครเข้ามาในหัวใจแต่จู่ๆ เมื่อมีคนตรงหน้านี้ เค้ากลับอยากจะมีชีวิตคู่ อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเธอ
เมเบล สาวสวยหวานทั้งหน้าตา และกิริยา ทุกอย่างของเธอคือสิ่งที่เค้าชอบ เธอเป็นคนที่เก่งมากไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม จากสาวน้อยชาวต่างชาติที่เข้ามาสมัครงานในตำแหน่งพนักงานเล็กๆ ในบริษัท แต่เพียงไม่กี่ปีเธอก็ใช้ความสามารถจนมาอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการในบริษัทยักษ์ใหญ่เช่นนี้ได้ ทำให้ทุกคนต่างก็ยอมรับในความสามารถของเธอจากใจจริง และยิ่งกว่านั้น เธอคือความภูมิใจของว่าที่สามีคนนี้ด้วย
“ที่รัก คุณจะกลับไทยวันไหน”
“คืนนี้ค่ะ”
“คืนนี้...ผมมีงานเลี้ยงสำคัญ ผมให้เฮย์เดนไปส่งคุณนะ”
“ค่ะ เมเบลรักคุณนะ”
หญิงสาวก้มลงจุ๊บแก้มชายหนุ่มอย่างแรงหนึ่งที เพื่อเป็นการตอกย้ำกับคำที่เธอพูดอีกรอบแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที ทิ้งไว้เพียงเจ้าของห้องหนุ่มที่นั่งยิ้มให้ร่างบางเมื่อสักครู่อย่างเอ็นดูในตัวเธอ
ทั้งสองรักกันมาได้สามปีแล้ว และตกลงกันว่าจะแต่งงานกันช่วงเทศการปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ดังนั้นเมเบลจึงต้องการไปบอกข่าวดีนี้กับครอบครัวของเธอ แต่ด้วยช่วงนี้ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างเค้ากลับติดงานด่วนจึงไม่ได้กลับไปด้วยกัน ดังนั้นเค้าจึงเลือกที่จะกลับไปทีหลัง
“พี่จะกลับมาแล้วหรอค่ะ...ว้าว... ดีใจจังในที่สุดหนูก็จะไม่เหงาอีกแล้ว”
สาวน้อยวิ่งเต้นไปรอบๆ ตัวคนเป็นพ่อและแม่ไปทั่ว
ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ที่สวนหน้าบ้าน
หลังจากกลับจากมหาลัยเอวาก็ได้ยินข่าวดีทันที เธอและ
เมเบลเป็นพี่น้องที่รักกันมาก เอวาคิดถึงคนเป็นพี่มากถึงกับยื่นส่งทุนการเรียนต่อโทที่ยุโรปเลยเพื่อที่จะได้ไปอยู่ใกล้กับพี่สาวของเธอ
“อย่าเล่นเป็นเด็กนักสิ นี้เราโตเป็นสาวแล้วนะเอวา” คุณหญิงไพลินแกล้งดุลูกสาวของตน
“เอาน่า อย่าดุนักเลยคุณ ลูกก็แค่ดีใจไปหน่อยนะ” คนเป็นพ่ออย่างคุณธนาที่รักลูกสาวที่สุด ทนเห็นเอวาถูกดุหน้าหงอยไม่ได้จึงเอ่ยออกมา
“คุณพ่อขา...”
“พอแล้วอย่าอ้อนนักเลย รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วไปรับพี่ที่สนามบินกับพ่อ เดี๋ยวแม่ก็ดุอีกหรอก”
“ก็ได้ค่ะ”
ยังไม่ทันพ้นสายตา เอวาก็กระโดดโลดเต้นเหมือนเดิมเข้าบ้านไปโดนมีสายตาของคนเป็นพ่อและแม่มองตาม
“คุณดูสิ ตามใจจนจะเสียคนอยู่แล้ว และนี่จะไปเรียนที่ยุโรปคนเดียวยังไงกัน ฉันละห่วงจริงเชียว”
“เอาน่าคุณ ลูกโตแล้วนะ อีกอย่างที่นั้นก็ยังมีเมเบลอยู่นะ ยังไงก็ไม่ปล่อยให้น้องลำบากแน่”
“ฉันละกลัวไปเป็นภาระให้ยัยเมเบลด้วยนะสิ”
“คุณอย่าคิดมากเลย ยังไงก็ยังดีกว่าปล่อยให้อยู่คนเดียวนะ”
ชายวัยกลางคนยื่นมือมากุมที่มือภรรยาของเค้า เค้าเข้าใจว่าคนเป็นแม่ห่วงลูกแค่ไหนเพราะตัวเค้าเองก็เป็นห่วงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่เพื่ออนาคตของลูก ชีวิตที่ต้องการของลูก พวกเค้าจะต้องให้เจ้าตัวเลือกเองเพราะยังไงซะ หากสักวันไม่มีพวกเค้าลูกก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเอง
“ก็ได้ค่ะ แต่ฉันว่าต่อไปนี้พวกเราสองคนคงต้องเหงาแน่ บ้านก็ออกจะใหญ่โตแต่กลับมีแค่เราตายาย เฮ้อ...”
“555 นี้คุณยอมรับว่าตัวเองแก่แล้วงั้นเหรอ”
“นี่! คุณก็!”
แม่บ้านหลายคนที่เดินผ่านไปมาเห็นเจ้านายหยอกเหย้ากัน ต่างก็พากันอมยิ้มตามไปด้วย
สนามบิน
เอวาที่เห็นพี่สาวมาแต่ไกลก็ตะโกนเรียกทันที “พี่!”
สาวสวยที่กำลังเดินออกมาจากประตูทางออกเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงหันไปมองทางต้นเสียง
ยัยตัวเล็ก! ร้องเสียงดังไม่อายใครเลยจริงๆ นะ
“พี่! พี่ทางนี้ค่ะ” สาวน้อยตะโกนเรียกไม่หยุดจนคนเริ่มหันมามองที่เธอ
คุณธนาและคุณไพลินที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับหันหน้ามองกันด้วยความอับอาย
เมเบลเองก็รีบเดินมาที่น้องสาวด้วยความอับอายที่น้องสาวเรียกตนเสียงดังเช่นกัน
“ตั้งใจแกล้งพี่ให้อายใช่ไหมยัยตัวแสบนี่!” เมเบลเดินมาถึงก็ใช้มือปิดปากเล็กของคนเป็นน้องทันที เพราะยัยตัวเล็กนี้ร้องเรียกพี่ๆ ไม่ยอมหยุด
“อือๆๆๆๆ”
“หยุดร้อง ไม่งั้นพี่ไม่ปล่อย”
“โอเอๆ” เอวาพยักหน้างึกๆ
“เอาละเลิกแกล้งกันได้แล้ว กลับบ้านกัน”
สีหน้าของทุกคนต่างก็มีแต่ความยิ้มแย้มเมื่อครอบครัวต่างก็อยู่พร้อมหน้า พร้อมตากันหมด
“พี่!”
เมื่อเมเบลปล่อยมือ เอวาก็ร้องลั่นอีกครั้งพร้อมกับกระโดดกอดคนเป็นพี่ทันที
“นี่! พอได้แล้วเอวา พี่เค้าเดินทางมาเหนื่อยๆ ยังจะแกล้งพี่เค้าอีก” คนเป็นแม่เริ่มทนไม่ไหวจึงดุเอวา
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ไหนให้พี่ดูหน่อยสิ คิดถึงอะไรพี่ขนาดนี้”
เมเบลแกะมือของเอวาออกจากหน้าท้องก่อนที่จะหันหน้ามาทางเอวา เพราะเอวากอดจากด้านหลังเธอ
“พี่ไม่รับโทรศัพท์วามาทั้งอาทิตย์เลย ทำไมอะไม่รักน้องคนนี้แล้วเหรอ” เอวาแกล้งบ่นพึม พลางทำแก้มป่องจนหน้าหยิก
“พี่ก็มาแล้วนี้ไง เห็นตัวเป็นๆ ยืนอยู่ตรงหน้านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอยัยแสบของพี่” เมเบลจับมับเข้าที่แก้มป่องนั้นเบาๆ
“พอใจก็ได้ ว่าแต่พี่จะอยู่นานไหม”
“อาทิตย์หนึ่ง พอไหม หืม...”
“ไม่พอ วามีข่าวดีจะบอกพี่ด้วย”
“อะไรเหรอ”
“ยังไม่บอก รอไปก่อน หึหึ”
“เชอะ แล้วแต่” เมเบลแกล้งไม่สนใจคนเป็นน้อง เธอเดินไปเกาะที่แขนคนเป็นมารดาแทนแล้วเดินออกไปที่ประตูใหญ่ทันที
“เอ้า! ไม่อยากรู้หน่อยเหรอ” เอวาเอ่ยออกมาเสียงเบาหลังจากพี่สาวและแม่ของเธอเดินออกไปที่ประตู
“ไปเถอะ ลูกพ่อ” คุณธนาได้แต่อมยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เดินไปกอดที่คอลูกสาวคนเล็กให้เดินตามหลังไป
“พ่ออ่ะ พี่ไม่สนใจหนูเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ผลงานอื่นๆ ของ ลูกหมู ตะวัน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ลูกหมู ตะวัน
ความคิดเห็น