อสูรร้าย พ่ายรัก - นิยาย อสูรร้าย พ่ายรัก : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    อสูรร้าย พ่ายรัก

    เมื่อเธอทำให้คนที่เค้ารักต้องตาย ดังนั้นเธอจะต้องชดใช้ให้กับเค้าเช่นกัน!

    ผู้เข้าชมรวม

    565

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    37

    ผู้เข้าชมรวม


    565

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  29 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  25 พ.ค. 67 / 13:41 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    อุบัติเหตุ

     

    บริษัทเบอร์ดิสัน

    กระจกบานใหญ่สะท้อนให้เห็นเงาของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังพลอดรักกันอย่างลึกซึ้ง จนลืมไปเลยว่าห้องที่ทั้งสองอยู่นั้น คือห้องทำงาน!

    “อืม...พอก่อนโคลด์ หยุดๆ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างเบาแรง

    เมเบลเองก็ต้องคอยควบคุมตัวเองด้วยเช่นกัน เธอไม่ต้องการให้เกิดเรื่องที่ตนเองไม่ต้องการ ทั้งที่ตัวเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน

    มือเล็กดันอกแกร่งให้ออกห่างแล้วสบตากับดวงตาคมที่ตอนนี้เค้าเองก็จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้วเช่นกันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก

    “เมเบล...ผมต้องการคุณ” น้ำเสียงกระเส่านี้ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับอมยิ้มออกมาเล็กน้อย

    “รออีกหน่อยนะคะ ถือซะว่าให้เกียรติเมเบลนะ ได้ไหมคะ”

    มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับที่ใบหน้าคม ปลายนิ้วไล่ไปมาตามรูปหน้าและจบลงที่ริมฝีปากของเค้าที่ตอนนี้เต็มไปด้วยลิปสติกของเธอ

    “ใจร้าย...”

    “คุณต้องห้ามใจนะคะ เราต้องเก็บความทรงจำดีๆ นี้ไว้ในวันสำคัญของเรา ทุกอย่างถึงจะมีความหมาย” ใบหน้าหวานส่งรอยยิ้มอ่อนเป็นเชิงขอร้องคนตรงหน้า

    “ก็ได้ ผมจะอดทนรอเพื่อคุณ”

    “เพื่อเราค่ะ คุณและฉัน เราสองคน”

    หญิงสาวก้มหน้าเข้ามาจูบที่ใบหน้าของชายหนุ่มเพียงเล็กน้อยเพื่อเป็นการปลอบใจที่เค้าต้องอดทน

    เธอเข้าใจว่าคนตรงหน้าต้องการเธอมาแค่ไหนเพราะตัวเธอเองก็ต้องการเค้ามากเช่นกัน

    ชายหนุ่มเองก็กอดเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ตัวเองเช่นกัน เค้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เค้าอยากจะแต่งงานกับใครสักคน ใช้ชีวิตคู่กับเธอทั้งที่ตั้งแต่เล็กจนโตเค้าเติบโตมาจากความเย็นชาของครอบครัวจนกระทั้งเหลือเพียงเค้าคนเดียว ทั้งที่คิดไว้ว่าจะไม่มีทางดึงใครเข้ามาในหัวใจแต่จู่ๆ เมื่อมีคนตรงหน้านี้ เค้ากลับอยากจะมีชีวิตคู่ อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเธอ

    เมเบล สาวสวยหวานทั้งหน้าตา และกิริยา ทุกอย่างของเธอคือสิ่งที่เค้าชอบ เธอเป็นคนที่เก่งมากไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม จากสาวน้อยชาวต่างชาติที่เข้ามาสมัครงานในตำแหน่งพนักงานเล็กๆ ในบริษัท แต่เพียงไม่กี่ปีเธอก็ใช้ความสามารถจนมาอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการในบริษัทยักษ์ใหญ่เช่นนี้ได้ ทำให้ทุกคนต่างก็ยอมรับในความสามารถของเธอจากใจจริง และยิ่งกว่านั้น เธอคือความภูมิใจของว่าที่สามีคนนี้ด้วย

    “ที่รัก คุณจะกลับไทยวันไหน”

    “คืนนี้ค่ะ”

    “คืนนี้...ผมมีงานเลี้ยงสำคัญ ผมให้เฮย์เดนไปส่งคุณนะ”

    “ค่ะ เมเบลรักคุณนะ”

    หญิงสาวก้มลงจุ๊บแก้มชายหนุ่มอย่างแรงหนึ่งที เพื่อเป็นการตอกย้ำกับคำที่เธอพูดอีกรอบแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที ทิ้งไว้เพียงเจ้าของห้องหนุ่มที่นั่งยิ้มให้ร่างบางเมื่อสักครู่อย่างเอ็นดูในตัวเธอ

    ทั้งสองรักกันมาได้สามปีแล้ว และตกลงกันว่าจะแต่งงานกันช่วงเทศการปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ดังนั้นเมเบลจึงต้องการไปบอกข่าวดีนี้กับครอบครัวของเธอ แต่ด้วยช่วงนี้ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างเค้ากลับติดงานด่วนจึงไม่ได้กลับไปด้วยกัน ดังนั้นเค้าจึงเลือกที่จะกลับไปทีหลัง

     

    “พี่จะกลับมาแล้วหรอค่ะ...ว้าว... ดีใจจังในที่สุดหนูก็จะไม่เหงาอีกแล้ว”

    สาวน้อยวิ่งเต้นไปรอบๆ ตัวคนเป็นพ่อและแม่ไปทั่ว

    ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ที่สวนหน้าบ้าน

    หลังจากกลับจากมหาลัยเอวาก็ได้ยินข่าวดีทันที เธอและ
    เมเบลเป็นพี่น้องที่รักกันมาก เอวาคิดถึงคนเป็นพี่มากถึงกับยื่นส่งทุนการเรียนต่อโทที่ยุโรปเลยเพื่อที่จะได้ไปอยู่ใกล้กับพี่สาวของเธอ

    “อย่าเล่นเป็นเด็กนักสิ นี้เราโตเป็นสาวแล้วนะเอวา” คุณหญิงไพลินแกล้งดุลูกสาวของตน

    “เอาน่า อย่าดุนักเลยคุณ ลูกก็แค่ดีใจไปหน่อยนะ” คนเป็นพ่ออย่างคุณธนาที่รักลูกสาวที่สุด ทนเห็นเอวาถูกดุหน้าหงอยไม่ได้จึงเอ่ยออกมา

    “คุณพ่อขา...”

    “พอแล้วอย่าอ้อนนักเลย รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วไปรับพี่ที่สนามบินกับพ่อ เดี๋ยวแม่ก็ดุอีกหรอก”

    “ก็ได้ค่ะ”

    ยังไม่ทันพ้นสายตา เอวาก็กระโดดโลดเต้นเหมือนเดิมเข้าบ้านไปโดนมีสายตาของคนเป็นพ่อและแม่มองตาม

    “คุณดูสิ ตามใจจนจะเสียคนอยู่แล้ว และนี่จะไปเรียนที่ยุโรปคนเดียวยังไงกัน ฉันละห่วงจริงเชียว”

    “เอาน่าคุณ ลูกโตแล้วนะ อีกอย่างที่นั้นก็ยังมีเมเบลอยู่นะ ยังไงก็ไม่ปล่อยให้น้องลำบากแน่”

    “ฉันละกลัวไปเป็นภาระให้ยัยเมเบลด้วยนะสิ”

    “คุณอย่าคิดมากเลย ยังไงก็ยังดีกว่าปล่อยให้อยู่คนเดียวนะ”

    ชายวัยกลางคนยื่นมือมากุมที่มือภรรยาของเค้า เค้าเข้าใจว่าคนเป็นแม่ห่วงลูกแค่ไหนเพราะตัวเค้าเองก็เป็นห่วงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่เพื่ออนาคตของลูก ชีวิตที่ต้องการของลูก พวกเค้าจะต้องให้เจ้าตัวเลือกเองเพราะยังไงซะ หากสักวันไม่มีพวกเค้าลูกก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเอง

    “ก็ได้ค่ะ แต่ฉันว่าต่อไปนี้พวกเราสองคนคงต้องเหงาแน่ บ้านก็ออกจะใหญ่โตแต่กลับมีแค่เราตายาย เฮ้อ...”

    “555 นี้คุณยอมรับว่าตัวเองแก่แล้วงั้นเหรอ”

    “นี่! คุณก็!”

    แม่บ้านหลายคนที่เดินผ่านไปมาเห็นเจ้านายหยอกเหย้ากัน ต่างก็พากันอมยิ้มตามไปด้วย

     

     

    สนามบิน

    เอวาที่เห็นพี่สาวมาแต่ไกลก็ตะโกนเรียกทันที “พี่!”

    สาวสวยที่กำลังเดินออกมาจากประตูทางออกเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงหันไปมองทางต้นเสียง

    ยัยตัวเล็ก! ร้องเสียงดังไม่อายใครเลยจริงๆ นะ

    “พี่! พี่ทางนี้ค่ะ” สาวน้อยตะโกนเรียกไม่หยุดจนคนเริ่มหันมามองที่เธอ

    คุณธนาและคุณไพลินที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับหันหน้ามองกันด้วยความอับอาย

    เมเบลเองก็รีบเดินมาที่น้องสาวด้วยความอับอายที่น้องสาวเรียกตนเสียงดังเช่นกัน

    “ตั้งใจแกล้งพี่ให้อายใช่ไหมยัยตัวแสบนี่!” เมเบลเดินมาถึงก็ใช้มือปิดปากเล็กของคนเป็นน้องทันที เพราะยัยตัวเล็กนี้ร้องเรียกพี่ๆ ไม่ยอมหยุด

    “อือๆๆๆๆ”

    “หยุดร้อง ไม่งั้นพี่ไม่ปล่อย”

    “โอเอๆ” เอวาพยักหน้างึกๆ

    “เอาละเลิกแกล้งกันได้แล้ว กลับบ้านกัน”

    สีหน้าของทุกคนต่างก็มีแต่ความยิ้มแย้มเมื่อครอบครัวต่างก็อยู่พร้อมหน้า พร้อมตากันหมด

    “พี่!”

    เมื่อเมเบลปล่อยมือ เอวาก็ร้องลั่นอีกครั้งพร้อมกับกระโดดกอดคนเป็นพี่ทันที

    “นี่! พอได้แล้วเอวา พี่เค้าเดินทางมาเหนื่อยๆ ยังจะแกล้งพี่เค้าอีก” คนเป็นแม่เริ่มทนไม่ไหวจึงดุเอวา

    “ไม่เป็นไรค่ะแม่ ไหนให้พี่ดูหน่อยสิ คิดถึงอะไรพี่ขนาดนี้”

    เมเบลแกะมือของเอวาออกจากหน้าท้องก่อนที่จะหันหน้ามาทางเอวา เพราะเอวากอดจากด้านหลังเธอ

    “พี่ไม่รับโทรศัพท์วามาทั้งอาทิตย์เลย ทำไมอะไม่รักน้องคนนี้แล้วเหรอ” เอวาแกล้งบ่นพึม พลางทำแก้มป่องจนหน้าหยิก

    “พี่ก็มาแล้วนี้ไง เห็นตัวเป็นๆ ยืนอยู่ตรงหน้านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอยัยแสบของพี่” เมเบลจับมับเข้าที่แก้มป่องนั้นเบาๆ

    “พอใจก็ได้ ว่าแต่พี่จะอยู่นานไหม”

    “อาทิตย์หนึ่ง พอไหม หืม...”

    “ไม่พอ วามีข่าวดีจะบอกพี่ด้วย”

    “อะไรเหรอ”

    “ยังไม่บอก รอไปก่อน หึหึ”

    “เชอะ แล้วแต่” เมเบลแกล้งไม่สนใจคนเป็นน้อง เธอเดินไปเกาะที่แขนคนเป็นมารดาแทนแล้วเดินออกไปที่ประตูใหญ่ทันที

    “เอ้า! ไม่อยากรู้หน่อยเหรอ” เอวาเอ่ยออกมาเสียงเบาหลังจากพี่สาวและแม่ของเธอเดินออกไปที่ประตู

    “ไปเถอะ ลูกพ่อ” คุณธนาได้แต่อมยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เดินไปกอดที่คอลูกสาวคนเล็กให้เดินตามหลังไป

    “พ่ออ่ะ พี่ไม่สนใจหนูเลย”

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น